เผย! 10 อันดับ ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก
อันดับ 10. Ethiopia
รายได้ต่อหัวต่อปี 700 เหรียญสหรัฐ
ประเทศ เอธิโอเปีย อยู่ในอันดับที่ 170 จาก 177 ของดัชนีประเทศยากจน ครึ่งหนึ่งของผลผลิตมวลรวมขึ้นอยู่กับภาคการเกษตร เนื่องจากขาดแคลนเทคโนโลยี ใช้วิธีเพาะปลูกที่ล้าสมัย จึงทำให้ผลผลิตในภาคการเกษตรต่ำลงและผลมาจากสภาพอากาศไม่อำนวย 50% ของประชากรจำนวน 74.7 ล้านคน มีฐานะยากจน อีก 80% มีชีวิตรอดด้วยการขอรับบริจาคอาหาร ผู้ชายเพียง 47 % และผู้หญิง 31 % ที่สามารถอ่านออกเขียนได้ ประชากรบางส่วนของ เอธิโอเปีย มีความเสี่ยงต่อ ตับอักเสบ A, ตับอักเสบ E, ไข้ไทรอยด์, มาลาเรีย, โรคพิษสุนัขบ้า, เยื่อหุ้มสมองอักเสบม และ schistosomiasis
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 9. Niger
รายได้ต่อหัวต่อปี 700 เหรียญสหรัฐ
ไนเจอร์ หนึ่งใน ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก มีประชากร 12.5 ล้านคน ฝน คือ สาเหตุหลักที่ทำให้เกิดสภาวะขาดแคลนอาหาร 63% ของประชากร อาศัยอยู่ด้วยเงินจำนวนต่ำกว่า 1 เหรียญสหรัฐต่อวัน ผู้ใหญ่สามารถอ่านออกเขียนได้เพียง 15% ผู้คนส่วนมากเสียชีวิตจาก ตับอักเสบ A, ท้องร่วง, มาลาเรีย, ไข้สมองอักเสบ, และไข้ไทรอยด์
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 8. Central African Republic
รายได้ต่อหัวต่อปี 700 เหรียญสหรัฐ
สาธารณรัฐอัฟริกากลาง อยู่ในลำดับที่ 171 ของประเทศยากจน เกษตรกรรมคืออาชีพหลักที่พยุงเศรษฐกิจ ประชากรมีความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเอดส์
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 7. Guinea-Bissau
รายได้ต่อหัวต่อปี 600 เหรียญสหรัฐ
ประเทศ กีนี บิสเซา ชื่ออาจไม่คุ้น แต่รู้ไว้ว่าพี่เค้ายากจนอันดับที่ 172 อาชีพสำคัญคือการทำไร่และประมง รายได้ของประชากรไม่เท่ากัน ต่างกันไปตามแต่ละภาคของประเทศ ประมาณ 10% ของผู้ใหญ่มีความเสี่ยงต่อโรคเอดส์
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 6. Union of the Comoros
รายได้ต่อหัวต่อ ปี 600 เหรียญสหรัฐ
สหภาพโคโมโรส ประชากรส่วนใหญ่ไม่มีงานทำ จึงส่งผลให้ภาพรวมของเศรษฐกิจย่ำแย่ และด้วยความหนาแน่นของประชากร 1,000 คนต่อตารางกิโลเมตร เป็นผลให้สภาพแวดล้อมวิกฤต กระทบต่อการเกษตร ประมาณ 40% มีระดับการศึกษาต่ำ ทำให้ขาดแคลนแรงงานที่มีศักยภาพ สรุปความเป็นอยู่ของผู้คนขึ้นอยู่กับเงินช่วยเหลือจากนานาชาติ!
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 5. Republic of Somalia
รายได้ต่อหัวต่อปี 600 เหรียญสหรัฐ
ภาคการเกษตรคือหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจ แห่ง สาธารณรัฐโซมาเลีย ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของแอฟริกา ประชากรส่วนใหญ่เร่ร่อน อยู่ไม่เป็นที่ อาชีพหลัก คือ การทำปศุสัตว์ อุตสาหกรรมทางการเกษตรให้ผลผลิตมวลรวมเพียง 10% ของทั้งหมด
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 4. The Solomon Islands
รายได้ต่อหัวต่อปี 600 เหรียญสหรัฐ
หมู่เกาะโซโลมอน เป็นประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับการประมงเป็นหลัก กว่า 75% ของแรงงานประกอบอาชีพประมง ไม้คืออุตสาหกรรมหลักมาจนถึง ค.ศ. 1998 กระทั่งน้ำมันปาล์กับมะพร้าว กลายเป็นสินค้าส่งออก หมู่เกาะโซโลมอล มีแร่ธาตุมากมาย เช่น สังกะสี ตะกั่ว ทองคำ และนิกเกิล
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 3. Republic of Zimbabwe
รายได้ต่อหัวต่อปี 500 เหรียญสหรัฐ
อีกหนึ่งที่ยกให้เป็น ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก สาธารณรัฐซิมบัพเว ตั้งอยู่ระหว่าง แม่น้ำ Limpopo และ Zabezi ในแอฟริกาใต้ เศรษฐกิจหยุดชะงักเนื่องจากอัตราเงินเฟ้อ บวกกับขาดแคลนเงินตราต่างประเทศ รวมถึงการที่ ซิมบัพเว ได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจทรุดตัวของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ทำให้อัตราการตกงานของประชากรสูงถึง 80%
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 2. Republic of Liberia
รายได้ต่อหัวต่อปี 500 เหรียญสหรัฐ
สาธารณรัฐไลบีเรีย อยู่ทางฝั่งตะวันตกของแอฟริกา 1 ใน 10 ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก เหตุเพราะการส่งออกพืชผลที่ลดลง นักลงทุนหดหาย ขโมยชุม คนรุมแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรเพชรอย่างไม่ยุติธรรม และการค้ากำไรเกินควรในช่วงสงครามกลางเมือง ค.ศ. 1990 ทำให้เศรษฐกิจของ ไลบีเรีย ทรุดตัว ส่งผลให้การกู้เงินจากต่างประเทศมีมากกว่าผลผลิตมวลรวม
ประเทศที่ยากจนที่สุดในโลก อันดับ 1. Republic of the Congo
รายได้ต่อหัวต่อปี 300 เหรียญสหรัฐ
มาถึง ประเทศที่ยากจนที่สุดของโลก กับ สาธารณรัฐคองโก ประเทศแถบแอฟริกากลาง ที่อดอยากยากแค้น เพราะการเสื่อมค่าของเงินฟรังค์ อัตราเงินเฟ้อเพิ่มระดับสูง ใน ปี ค.ศ. 1994 ความวุ่นวายจากสงครามกลางเมือง และราคาน้ำมันที่ตกต่ำใน ปี ค.ศ. 1998 ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศย่อยยับ
ข้อมูล : www.hottnez.com เรียบเรียง : travel.mthai.com
ไปดู 5 วิธี ลืมแฟนเก่า ได้อย่างไร?
1. นึกถึงเรื่องไม่ดี ที่เค้าเคยทำกับเราไว้
ทุกคนต้องมีทั้งข้อดีและข้อ เสียทั้งนั้น แต่ถ้าเราตัดสินใจเลิกกับเค ้าไปแล้ว ก็แปลว่าข้อเสียของเค้านั้น เป็นสิ่งที่เรารับไม่ได้ เพราะฉะนั้นเมื่อนึกถึงเค้า ก็ต้องข่มใจตัวเองและกลับมา ทบทวนสิ่งต่างๆที่เค้าเคยทำ กับเราไว้ และให้มองความเป็นจริงว่า คบกันต่อไปยังไงก็เลิกกันใน อนาคตอยู่ดี เพื่อจะไม่ให้เกิดความอาวรณ ์ต่อเค้ามากเกินไป
2. อย่าติดต่อกับเขาอีก
อย่ารับโทรศัพท์ และอย่าตอบกลับไม่ว่าจะเป็น ช่องทางใดก็ตาม เมื่อเรายังติดตามถามไถ่ สารทุกข์ สุขดิบ ของเค้าเราคงลืมเค้าไม่ได้แ น่ๆ เพราะฉะนั้นหักดิบ คิดซะว่าเราไม่เคยรู้จักกัน (โหดไปป่ะ)
3. หากิจกรรมที่มีประโยชน์ทำ
ชวนก๊วนเพื่อนไป เล่นกีฬา ดูหนัง ฟังเพลง ผ่อนคลายสมองจะได้ไม่ต้องอย ู่คนเดียว แถมยังได้สุขภาพที่ดีกลับมา อีกด้วย
4. อย่านั่งมองฝนตก
การนั่งมองฟ้าฝนตกพรำๆ เหมือนกำลังถ่ายมิวสิกวีดีโ ออยู่ มันจะทำให้ยิ่งอยากร้องไห้เ ข้าไปใหญ่ แต่ร้องไห้แบบนี้ไม่มีคนมาเ ช็ดน้ำตาหรอกนะ เพราะคุณไม่ใช่พระเอกนางเอก แบบในเอมวีน่ะสิ อย่าหวังกับการนั่งมองฝนตกเ ลย ไปหาอย่างอื่นทำดีกว่า
5. พยายามอย่าไปในที่ที่เคยไปด ้วยกัน หนีให้ห่างเลยสถานที่เหล่าน ี้ เพราะความรู้สึกเดิมๆ ความรู้สึกดีๆ จะกลับมา เมื่อเราตั้งใจจะลืมก็ต้องห ักใจ ( ยังเดินผ่านทู้กกวัน ที่ที่เราพบกัน..เมื่อก่อน โว้ เย )
ปล.
[แฟนเก่า] อย่าทิ้งเราไปนะ Smooth เธอลืมไปแล้วเหรอที่เธอบอกว ่ารักฉันมากที่สุด
มาทำความรู้จัก "รูทเบียร์"
ประวัติของรูทเบียร์แบ่ง ได้เป็นสองทฤษฎี
1. รูทเบียร์ปรากฎในนิยายของเช ็คสเปียร์หลายครั้ง ในลักษณะของเบียร์ แต่รสอ่อนและบางกว่า และมีแอลกอฮอล์น้อยกว่า ทำจากสมุนไพร และผลเบอร์รี่ บางคนก็เรียกมันว่า เบิร์ช เบียร์, ซาร์สปาริลล่า เบียร์ หรือจินเจอร์ เบียร์ และมันเป็นที่นิยมมากช่วงยุ คทศวรรษที่ 18 ในหมู่ชาวไร่ชาวนา โดยเฉพาะในช่วงมีปาร์ตี้ หรือการพบปะสังสรรค์สมาคมกั น
1. รูทเบียร์ปรากฎในนิยายของเช
2. รูทเบียร์เกิดขึ้นโดยบังเอิ
ต่อมา ชาร์ลส์ ไฮเรส เภสัชกรอีกคนหนึ่งได้พบสมุน
สำหรับรูทเบียร์ในปัจจุบัน ไม่มีสูตรที่ตายตัว เพราะตั้งแต่เมื่อก่อนมันก็
ขอขอบคุณข้อมูลจาก tn.essortment.com, dek-d.com
สุดยอดเครื่องเล่นตื่นเต้น ดีที่สุด แรงที่สุด เจ๋งที่สุดในโลก3/6
ป็น รถไฟเหาะ สูง และ เร็วที่สุดในโลก เป็น อันดับ2 ในปี 2008 มีผู้เล่นได้สัมผัสกับประสบ การณ์นี้กว่า 1.2 ล้านคน
เตรียมพบกับประสบการณ์ ความตื่นเต้นสุดขีด จากการดิ่งลงจากความสูงที่ 120 เมตร ด้วยความเร็ว 193 เมตร/ชั่วโมง
ที่มา http:// wowboom.blogspot.com/
เตรียมพบกับประสบการณ์ ความตื่นเต้นสุดขีด จากการดิ่งลงจากความสูงที่ 120 เมตร ด้วยความเร็ว 193 เมตร/ชั่วโมง
ที่มา http://
การดูแลผิวของ "ผู้ชาย" ในแต่ละวัย
ตอนนี้ผู้ชายหลายๆคนเริ่มหันมาใส่ใจสุขภาพผิวเพิ่มมากขึ้นไม่เฉพาะแต่หนุ่มแอบสาวเท่านั้นนะคะ อาจเป็นเพราะสาวๆเองก็มักสนใจผู้ชายที่ดูแลตัวเองบ้างไรบ้างมากกว่าคนที่ปล่อยตัว แบบว่าธรรมชาติเกิ๊น ผมหน้าหนวดเคราไม่เคยดูแลอะไรงี้ก็ไม่ไหว เคที่เลยอยากแนะนำการดูแลผิวผู้ชายแต่ละวัยให้อ่านกัน ด้วยสภาพผิวที่แตกต่างกันออกไปในแต่ละช่วงอายุ ทำให้การดูแลผิวผู้ชายในแต่ละวันแตกต่างกันออกไป
ดูแลผิวผู้ชายวัยรุ่น
วัยนี้มันจะพบแต่ปัญหาเรื่องสิว ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนที่กำลังเปลี่ยนแปลง เป็นตัวกระตุ้นต่อสร้างไขมันบริเวณรูขุมขนให้ผลิตไขมันออกมามากขึ้น เมื่อรวมเข้ากับมลภาวะรอบตัวลากรดูแลความสะอาดไม่ถูกวิธี โอกาสเกิดสิวก็จะมีมากยิ่งขึ้น
วัยนี้มันจะพบแต่ปัญหาเรื่องสิว ซึ่งเกิดจากฮอร์โมนที่กำลังเปลี่ยนแปลง เป็นตัวกระตุ้นต่อสร้างไขมันบริเวณรูขุมขนให้ผลิตไขมันออกมามากขึ้น เมื่อรวมเข้ากับมลภาวะรอบตัวลากรดูแลความสะอาดไม่ถูกวิธี โอกาสเกิดสิวก็จะมีมากยิ่งขึ้น
วิธีการดูแลผิวผู้ชายวัยนี้ คือ ควรทำความสะอาดผิวให้หมดจนด้วยโฟมหรือสบู่ล้างหน้า หากมีเหงื่อก็ควรล้างหน้าให้สะอาด วัยนี้ควรเริ่มต้นทาครีมกันแดดเมื่ออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง และบำรุงผิวด้วยมอย์เจอไรเซอร์ สำหรับหนุ่มผิวแห้ง เพื่อเป็นการชะลอริ้วรอยก่อนวัยที่จะมาเยือน เมื่ออายุเพิ่มมากขึ้น
ดูแลผิวผู้ชายวัยทำงาน
ข้อได้เปรียบของผู้ชายวันทำงานคือ ฮอร์โมนเพศขายจะสร้างต่อมไขมันมากกว่าผู้หญิง จึงทำให้ผิวผู้ชายดูชุ่มชื้นแม้จะไม่ได้บำรุงอะไรมาก แต่ก็ต้องระวังปัญหาผิวที่จะเกิดจากความเครียด ทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้ออ่อนแอลง หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ซึ่งก็จะทำให้เกิดอาการใต้ตาดำคล้ำ ผิวไม่สดใส
ข้อได้เปรียบของผู้ชายวันทำงานคือ ฮอร์โมนเพศขายจะสร้างต่อมไขมันมากกว่าผู้หญิง จึงทำให้ผิวผู้ชายดูชุ่มชื้นแม้จะไม่ได้บำรุงอะไรมาก แต่ก็ต้องระวังปัญหาผิวที่จะเกิดจากความเครียด ทำให้เกิดความผิดปกติกับร่างกาย ทั้งกล้ามเนื้ออ่อนแอลง หงุดหงิดง่าย นอนไม่หลับ ซึ่งก็จะทำให้เกิดอาการใต้ตาดำคล้ำ ผิวไม่สดใส
วิธีการดูแลผิวผู้ชายวัยนี้ ควรเพิ่มขั้นตอนในการทำความสะอาดให้มากขึ้น ใช้โทนเนอร์เพื่อปรับสภาพผิว กระชับรูขุมขน และใช้มอยส์เจอไรเซอร์เพิ่มความชุ่มชื้น ป้องกันการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ส่วนจะบำรุงเพิ่มเติมอื่นๆ ก็แล้วแต่ปัญหาผิวของแต่ละคน
ดูแลผิวผู้ชายรุ่นใหญ่
ผู้ชายตั้งแต่วัน 40 ปีขึ้นไป จะเป็นวัยที่ผิวเริ่มโรยรา ยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนเพศชายก็จะยิ่งน้อยลง จึงทำให้ผิวของหนุ่มใหญ่วันนี้มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้ชายตั้งแต่วัน 40 ปีขึ้นไป จะเป็นวัยที่ผิวเริ่มโรยรา ยิ่งเมื่อเข้าสู่วัยทอง ฮอร์โมนเพศชายก็จะยิ่งน้อยลง จึงทำให้ผิวของหนุ่มใหญ่วันนี้มีริ้วรอยที่เห็นได้ชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนวิธีการดูแลผิวผู้ชายวัยนี้ หากต้องออกแดดมากๆ ก็ต้องทาครีมกันแดดที่มี SPF สูงๆ ที่กันได้ทั้ง UVA และ UVB เพราะจะช่วยป้องกันไม่ให้ผิวหนังเหี่ยวย่นดูแก่ก่อนวัย นอกจากนั้น ยังเป็นการดูแลจากจิตใจภายใน การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และพักผ่อนอย่างเพียงพอ พร้อมทั้งทาครีมบำรุงผิวให้ผิวชุ่มชื้น ก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้ผิวมีสุขภาพดีขึ้นได้
เครดิต: M2F