นกอีโก้ง (Purple Swamphen)
นกอีโก้ง (Purple Swamphen) พบเป็นจำนวนนับพันตัวที่บึง บอระเพ็ดซึ่งเป็นพื้นที่ชุ่ มน้ำขนาดใหญ่อยู่ในจังหวัดน ครสวรรค์ห่างจากกรุงเทพฯไปท างเหนือประมาณ 300 กม.
นกอีโก้งมักอาศัยตามแหล่งน้ ำจืดขนาดใหญ่ นกจะเดินหากินไปบนพืชลอยน้ำ ยกขาที่มีนิ้วเท้ายาวก้าวไป อย่างช้าๆ กระดกหางขึ้น ๆ ลง ๆ ในการเดินบนวัชพืชลอยน้ำนกอ ีโก้งมักต้องขยับปีกเพื่อช่ วยในการทรงตัวด้วย หากอยู่ในอันตราย หรือตกใจนกชนิดนี้อาจวิ่งหน ี หรือบินหนีเป็นระยะทางสั้น ๆ และหาที่หลบกำบังตัว
ปลากระทิงไฟ (Fire spiny eel)
ปลาน้ำจืดพื้นเมืองของไทยชนิดหนึ่ง รูปร่างยาวคล้ายงูหรือปลาไห ล แต่ท้ายลำตัวส่วนหางจะมีลัก ษณะแบนข้าง และส่วนหัวหรือปลายปากจะยื่ นยาวและแหลม จะงอยปากล่างจะยื่นยาวกว่าจ ะงอยปากบน ตามีขนาดเล็ก ปลายหางมีลักษณะมนโค้ง ปล...ายค่อนข้างแหลม มีหนามแหลมขนาดเล็กตลอดทั้ง ความยาวลำตัวช่วงบนไว้เพื่อ ป้องกันตัว ปลากระทิงไฟจะมีรูปร่างป้อม มีขนาดโตเต็มที่ประมาณ 60 เซนติเมตร พบใหญ่ที่สุดถึง 1 เมตร พบได้ในภูมิภาคเอเชียตะวันอ อกเฉียงใต้ทุกประเทศจนถึงอิ นโดนีเซีย สำหรับในประเทศไทยพบได้ในแห ล่งน้ำขนาดใหญ่ในภาคกลางและ ภาคใต้
หมายเหตุ : แก้ไขรูป
หมายเหตุ : แก้ไขรูป
ราชาวดี : ดอกไม้ที่มีขึ้นสำหรับพระราชา
ไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้ตั้งชื่อไม้ดอกต้นนี้ว่าราชาวดี ราชาวดีตามศัพท์แปลว่า ของที่มีขึ้นสำหรับพระราชา เดิมเป็นชื่อเรียกการลงยาเครื่องทองให้เป็นสีฟ้าว่าลงยาราชาวดี เป็นการลงยาเครื่องใช้ของพระราชาเท่านั้น
ราชาวดีเป็นไม้ยืนต้นขนาดย่อม ลักษณะกิ่งไม้เลื้อย ชนิดกิ่งแข็ง ที่ทอดกิ่งออกไป เป็นไม้กิ่งเถาที่แตกกิ่งก้านสาขามาก ลำต้นเป็นเหลี่ยมเล็กน้อย ใบดก หน้าใบสากคายคล้ายกระดาษทรายละเอียด
ดอกจะทยอยบานในเวลาไล่เลี่ยกันและบานจากโคนกิ่งไล่ขึ้นไปเรื่อยๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ ช่วงกลางวัน และหอมแรงตอนกลางคืน ข้อมูลเกี่ยวกับราชาวดีผู้เขียน มีน้อยมาก เช่น ถิ่นกำเนิดดั้งเดิม* และระยะเวลาที่เข้ามาปลูกในเมืองไทยเป็นครั้งแรก เท่าที่ทราบในขณะนี้คือราชาวดีเป็นต้นไม้มาจากต่างประเทศ คงเข้ามาในเมืองไทยหลังสงครามโลก ครั้งที่ 2 เพราะเอกสารที่มีในปี พ.ศ. 2480 ยังไม่ปรากฏชื่อราชาวดี
กุหลาบมาลัยแดง (Aerides multiflora Roxb)
เป็นกล้วยไม้ที่มีกลีบดอกสีม่วงแดงมักจะมีสีจางจนถึงขาวที่โคนกลีบ และสีจะเข้มขึ้น ๆ จนเข้มที่สุดที่ปลายกลีบช่อดอกจะแตกแขนง ถ้าเลี้ยงให้สมบูรณ์และอากาศเย็น เคยพบต้นที่ดอกมีสีขาวล้วน จึงเรียกว่า "มาลัยเผือก" กุหลาบมาลัยแดงมีลำต้นแข็งแรง ล่ำสัน ใบหนาและโค้ง ใบซ้อนกันถี่ ใบกว้างประมาณ 2.5-4 เซนติเมตร ยาว 15-25 เซนติเมตร ช่อดอกโค้งห้อยยาวประมาณ 20-30 เซนติเมตร ก้านช่อมักมีสีคล้ำเกือบดำ ออกดอกเบียดชิดกันแน่นช่อ
ในประเทศไทยพบในภาคเหนือ อีสาน และที่นครนายก ชลบุรี และกาญจนบุรี ต่างประเทศพบที่เนปาล สิกขิม ภูฏาน อินเดีย พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม
ที่มาของ ปลาอานนท์
ในสมัยโบราณ มีความเชื่อกันว่า ใต้โลกที่เราอาศัยอยู่นี้ มีปลาใหญ่ตัวหนึ่งหนุนโลกอย ู่ชื่อว่า ปลาอานนท์ ปลาอานนท์นี้ตัวยาวถึง ๘,OOO,OOO วา (อ่านว่า ๘ ล้านวา) เมื่อใดก็ตามที่ปลาอานนท์เค ลื่อนไหวพลิกตัว เมื่อนั้นโลกจะเกิดแผ่นดินไ หว
ในตำนานไฟล้างโลก กล่าวว่า เมื่อคนทั้งหลายกระทำแต่บาป ไม่รู้จักศีลไม่รู้จักธรรม ไม่รู้จักบุญคุณพ่อแม่ ลูกศิษย์คิดล้างครู ใจบาปหยาบช้า ผลของบาปจะทำให้เกิดความแห้ งแล้ง ฝนไม่ตก แสงแดดแผดจ้า น้ำจะแห้งขอด สัตว์จะพากันล้มตาย ในเวลาต่อมา พระอาทิตย์จะขึ้นเป็น ๒ ดวง ดวงหนึ่งตกไป อีกดวงก็ขึ้นมาแทน ยิ่งแห้งแล้งหนักขึ้น ต่อมาพระอาทิตย์จะขึ้นเป็น ๓ ดวง ๔ ดวง ๕ ดวง ๖ ดวง และในที่สุด ก็จะมีพระอาทิตย์ถึง ๗ ดวง พญาปลาทั้งหลาย รวมทั้งปลาอานนท์ ก็จะละลายเป็นน้ำมัน ติดไฟลุกไหม้ กลายเป็นไฟล้างโลก เรียกว่า ไฟบรรลัยกัลป์ ไฟนี้จะลุกไหม้ยาวนานจนทุกอ ย่างสิ้นสูญแล้วไฟจึงจะดับ เหลือแต่ความมืดมนตลอดกาล
ติดตามรับชมซีรี่ความรู้ชุด "สัตว์ในตำนาน" ได้ใน เวลา 05.30 น. ในวัน อังคาร,พฤหัสบดี,ศุกร์ และเสาร์
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : postjung.com
ในตำนานไฟล้างโลก กล่าวว่า เมื่อคนทั้งหลายกระทำแต่บาป
ติดตามรับชมซีรี่ความรู้ชุด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : postjung.com
เทศกาลโยนแพะ ประเทศสเปน
เทศกาลที่เป็นที่โต้เถียงกันมากที่สุด เพราะของที่เอามาโยนนั้นคือสัตว์เป็นๆ ที่ยังมีชีวิตอยู่ และมันคงไม่ชอบใจนักที่จะถูกเอามาโยนแบบนี้ สัตว์ที่ว่านี้คือ แพะ ซึ่งถูกโยนลงมาจากหอระฆังสูง 50 ฟุต ลงมายังพื้นด้านล่างที่มีกลุ่มคนถือผ้าผืนใหญ่รอรับตัวมันอยู่ จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่นักต่อต้านการทารุณกรรมสัตว์จะหัวเสียและเรียกร้องให้ยกเลิกงานเทศกาลนี้
ที่เมือง Manganeses de la Polvorosa ซาโมรา ประเทศสเปน จะมีการจัดงานเทศกาลนี้เพื่อเฉลิมฉลองให้กับแพะชื่อดังในประวัติศาสตร์เมือง เรื่องมีอยู่ว่า มีพระรูปหนึ่งซึ่งเลี้ยงแพะเอาไว้ ทุกๆ วันเขาจะพาแพะเดินไปตามที่ต่างๆ เพื่อเอานมของมันให้กับคนยากไร้ อย่างไรก็ตาม วันหนึ่ง แพงตัวนี้หนีขึ้นไปบนหอระฆัง เมื่อระฆังดังขึ้นมามันก็ตกใจมากจนวิ่งตกลงมาจากหอคอย แต่โชคดีที่ด้านล่างมีคนผ่านไปมาที่ถือผืนผ้าใบอยู่จึงรับมันเอาไว้ได้พอดี และแพะตัวนี้ก็รอดชีวิต แต่สำหรับแพะผู้โชคร้ายที่โดนเอามาโยนในงานเฉลิมฉลองนี้ส่วนมากไม่ได้โชคดีแบบแพะต้นเรื่องและตกลงมาตายเสียส่วนมาก ปัจจุบันนี้เทศกาลนี้ถูกแบนไปตั้งแต่ปี 2002 แล้ว แต่เชื่อว่ายังมีคนแอบทำกันอยู่ดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก thelistcafe.com