......
หลายครั้งในชีวิตของเรา การงาน การเงิน สังคม
และชีวิตครอบครัว ทำให้เราต้องคิดหนัก
ใช้สมองและความคิดในเรื่องต่างๆมากมายหลายเรื่อง
บางครั้งก็ทำให้คนเราเครียดหรือเหนื่อยล้าไปได้เหมือนกัน
.....
ไม่เป็นไรครับ เหนื่อยนัก เครียดนักก็พักกันเสียก่อน
มาหาอะไรกิน มาหาอะไรบำรุงร่างกาย บำรุงสมองกันดีกว่าเนอะครับ
อาหารบำรุงสมองนั้นมีมากมาย บางคนก็ชอบซุปไก่
รังนก หรือโสม สมุนไพรต่างๆ ก็ว่ากันไปครับ
อาหารแต่ละอย่างก็มีประโยชน์ต่อร่างกายและจิตใจ
แตกต่างกันไป การกินอาหารที่หลากหลาย ย่อมได้ประโยชน์
เพียงแต่ต้องกินให้พอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
กินให้ถูกส่วน ก็เท่านั้นเองเนอะครับ….
.....
7 อาหารบำรุงสมอง
...
.....
ปลา เป็นอาหารบำรุงสมองยอดฮิต
ที่เรานึกถึงเป็นอันดับแรกๆเลยครับ
เพราะในปลาจะมีกรดไขมัน โอเมก้า 3
ช่วยสร้างและดูแลผนังเซลส์ประสาทในสมอง
ให้แข็งแรง ไม่เสื่อมตามวัยเร็วเกินไป นั่นเอง
(กรดไขมัน DHA ที่อยู่ในกรดไขมันโอเมก้า3
มีความสำคัญต่อการพัฒนาและบำรุงเซลส์สมองมาก
เพราะเป็นกรดไขมันโซ่ยาวแบบเดียวกัน
กับที่พบในเยื่อเซลส์สมองของเรา)
ปลากระพง ปลาแซลมอน ปลาซาร์ดีน และปลาทู
เป็นปลาที่มีโอเมก้า 3 ในปริมาณสูงครับ
.....
.....
สาหร่ายทะเล มีโอเมก้า 3 สูงเช่นกัน
จัดว่าเป็นอาหารบำรุงสมองอย่างหนึ่งที่สำคัญ
และยังช่วยให้เส้นผมดกดำได้อีกด้วยครับ
.....
.....
กระเทียม สุดยอดพืชมหัศจรรย์จริงๆครับ
กระเทียมจะช่วยกระตุ้นให้สมองสร้างเทโรนิน
มากขึ้น ช่วยทำให้เราอารมณ์ดี ลดความเครียด
ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลส์ประสาท ช่วยให้ความจำดี
.....
....
ถั่วเหลือง เป็นอาหารบำรุงร่างกายที่ยอดเยี่ยม
มีคุณประโยชน์หลากหลายจริงๆครับ
สำหรับสมองนั้น ถั่วเหลืองมีสารไฟโตเอสโตรเจน
ที่ช่วยให้เซลส์ประสาทของเราแข็งแรง ช่วยเรื่องความจำ
.....
...
กล้วยหอม ถือเป็นผลไม้คลายความเครียดชั้นดีครับ
กล้วยหอมช่วยกระตุ้นสารเซโรโทนินให้กับสมอง
และยังช่วยบำรุงร่างกายและเพิ่มพลังให้กับร่างกายเราด้วย
....
.....
สตรอเบอรี่สีแดง มีสารแอนโทไซอะนิน
จัดเป็นแอนติออกซิเดนท์ที่ทรงพลัง ช่วยดูแลเซลส์สมอง
....
....
ผักปวยเล้ง มีกรดโฟลิกสสูงมาก ช่วยให้อารมณ์ดี หลับง่าย
ป้องกันโรคซึมเศร้า ประสาทหลอนและความจำเสื่อม
.....
นี้แหละครับคืออาหารที่หาได้ง่ายๆตามบ้านเรา ซึ่งจะช่วยบำรุงสมองของคุณได้มากเลยทีเดียว เมื่อสมองดี ก็จะทำให้สุขภาพดี และอารมณ์ดีครับ ขอให้สนุกกับการบำรุงสมองนะครับ
ขอขอบคุณภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต
และข้อมูลส่วนหนึ่งจากหนังสือกินต้านโรค โดยทวีทอง หงษ์วิวัฒน์
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น