5 วิธีเล่นหุ้น ฉบับ มนุษย์เงินเดือน
วันนี้เจอบทความดีๆเลยเอามาฝากสำหรับการเล่นหุ้น ฉบับ มนุษย์เงินเดือน
ู่ทุกวันนี้มาแบ่งปันกันในฐ านะของมนุษย์เงินเดือนคนหนึ ่งครับ
1. ไม่นั่งเฝ้าราคาทั้งวัน การเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น บริษัทจ้างเรามาเพื่อทำงานค รับ ถ้าคุณไม่ได้ทำงานเป็นมาร์ข องโบรกที่ต้องคอยดูราคาขึ้น ๆ ลงๆ คุณก็ไม่ควรนั่งจ้องหน้าจอห ุ้นตลอดเวลา มีช่วงหนึ่งของชีวิตที่ผมเค ยเล่นหุ้นโดยมีระบบการซื้อข ายที่ตัดสินใจจากราคาหุ้นที ่เปลี่ยนแปลงไป ช่วงนั้นผมต้องนั่งเฝ้าหน้า จอทั้งวันเลย ดีที่ตอนนั้นทำงานเป็นฟรีแล นซ์เลยปรับเวลาทำงานตัวเองเ ป็นหลังตลาดปิด แต่ก็รู้สึกว่าตัวเองเสีย Productivity มาก เมื่อเทียบกับเงินเพียงเล็ก น้อยที่ได้มาจากการเฝ้าหน้า จอ
2. ไม่เล่นรอบเพื่อหวังรวยเร็ว เชื่อว่า 99% ของคนที่ไม่เคยเล่นหุ้นมาก่ อนและกำลังตัดสินใจจะเล่นโด ยที่ยังไม่มีความรู้อะไรมาก นัก ย่อมคิดว่าการเล่นหุ้นทำให้ รวยเร็ว เริ่มจากเงินลงทุนจำนวนไม่ม ากของตัวเอง ซื้อหุ้นตอนราคาต่ำๆ ถือไว้สักพักราคาจะวิ่งขึ้น จากนั้นก็ขายเพื่อเอาทุนคืน เอากำไรที่ได้ไปซื้อหุ้นตัว ใหม่ ทำแบบนี้ไม่กี่รอบ จากเงินลงทุนหลักหมื่นจะกลา ยเป็นหลักแสน หลักแสนจะกลายเป็นหลักล้าน ผมไม่ปฏิเสธว่ามีคนที่ทำแบบ นี้แล้วพอร์ตโตขึ้นจริง แต่คำถามคือมีคนกี่เปอร์เซ็ นต์ที่ทำได้แบบนี้? และเขาจะได้กำไรไปเรื่อยๆ หรือเปล่า? มันทำให้ผมคิดถึงคนที่เล่นห วย บางคนดวงดีทำบุญมาเยอะ ซื้อหวยแล้วถูกเป็นส่วนใหญ่ แต่ก็ไม่ได้แปลว่าคุณจะถูกห วยบ่อยๆ เหมือนเขานะ
3. เล่นหุ้นให้เหมือนฝากประจำ สมัยที่ผมทำงานใหม่ๆ ได้เงินเดือน 20,000 บาท ผมจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งสำหร ับใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน อีกครึ่งเอาเข้าบัญชีเงินฝา กประจำทุกเดือนเป็นเวลา 24 เดือน มันน่าอึดอัดเหมือนกันเวลาท ี่ผมอยากซื้อของราคาสูงๆ อย่างโน้ตบุ๊ก แต่มันก็ช่วยให้มีวินัยทางก ารเงิน และส่งผลให้สองปีต่อมา ผมมีเงินก้อน 240,000 บาท บวกดอกเบี้ยอีกก้อนเล็กๆ ตอนนี้ผมประยุกต์ใช้วิธีนี้ กับการเล่นหุ้น คือแบ่งเงินส่วนหนึ่งไว้ทุก เดือนเพื่อโอนเข้าบัญชีหุ้น (ผมใช้บัญชีเงินสด) บางคนอาจใช้เงินก้อนนี้ซื้อ หุ้นทุกเดือนเลยโดยไม่สนราค า แต่ผมใช้วิธีถือเงินสดไว้แล ะรอเข้าซื้อในจังหวะที่หุ้น ตกแรงๆ จากประสบการณ์ที่ผ่านมา แต่ละปีจะมีช่วงเวลาที่หุ้น ตกหนักประมาณ 2-3 ครั้ง
4. ซื้อหุ้นเหมือนซื้อกิจการ เป็นกฎของนักลงทุนแนวพื้นฐา น (Fundamental) และนักลงทุนเน้นคุณค่า (Value Investor) เนื่องจากมนุษย์เงินเดือนไม ่มีเวลานั่งเฝ้าราคา และไม่หวังรวยเร็วจากการเล่ นรอบ เลยต้องซื้อหุ้นโดยวิเคราะห ์พื้นฐานของธุรกิจนั้นๆ เสมือนว่าเราจะซื้อกิจการ ต้องเข้าใจว่ารายรับของบริษ ัทมาจากไหน มีรายจ่ายอะไรบ้าง ลูกค้าคือใคร สภาพตลาดเป็นยังไง อีก 5 ปี ตลาดจะใหญ่ขึ้นมั้ย คู่แข่งแข็งแกร่งแค่ไหน ผู้บริหารเป็นยังไง ฯลฯ ถ้าเข้าใจสิ่งเหล่านี้ เมื่อมีเหตุการณ์บางอย่างเข ้ามาทำให้ราคาหุ้นตกหนัก ผมก็จะเข้าใจว่าเหตุการณ์นั ้นส่งผลกระทบต่อพื้นฐานของธ ุรกิจในระยะยาวจริงหรือเปล่ า ถ้ามีผลแค่ระยะสั้น ผมก็จะใช้เงินสดในข้อ 3 เพื่อซื้อหุ้นเพิ่ม แต่ถ้าดูแล้วน่าจะส่งผลกระท บในระยะยาว แบบนี้ก็ค่อยพิจารณาขายทิ้ง
5. ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จ ากเงินปันผลไว้ใช้ตอนเกษียณ ลองประเมินดูว่าทุกวันนี้ถ้ าเรากินอยู่อย่างประหยัด ต้องใช้เงินเท่าไหร่ ลองคูณเงินเฟ้อเพื่อดูว่าอี ก 20-30 ปีที่เราเกษียณแล้ว เราต้องใช้เงินเท่าไหร่ ถ้าค่าใช้จ่ายของเราในอนาคต มาจากเงินปันผล แปลว่าตอนนั้นเราควรมีพอร์ต ขนาดไหน พอร์ตของเราในปัจจุบันยังห่ างจากเป้าหมายเท่าไหร่ ในแต่ละปีเราควรจะมีเป้าหมา ยในการเพิ่มขนาดพอร์ตปีละเท ่าไหร่ ถ้าวางแผนให้ดีตั้งแต่ตอนที ่ยังมีแรงทำงาน พอถึงตอนที่ทำงานไม่ไหวแล้ว เราจะได้ไม่ต้องลำบากลูกหลา นครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก "คุณ ทองเนื้อเก้า" pantip.com ห้อง สินธร www.pantip.com/cafe/ sinthorn/topic/I12761206/ I12761206.html
1. ไม่นั่งเฝ้าราคาทั้งวัน การเป็นมนุษย์เงินเดือนนั้น
2. ไม่เล่นรอบเพื่อหวังรวยเร็ว
3. เล่นหุ้นให้เหมือนฝากประจำ สมัยที่ผมทำงานใหม่ๆ ได้เงินเดือน 20,000 บาท ผมจะแบ่งเงินครึ่งหนึ่งสำหร
4. ซื้อหุ้นเหมือนซื้อกิจการ เป็นกฎของนักลงทุนแนวพื้นฐา
5. ตั้งเป้าหมายว่าจะมีรายได้จ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก "คุณ ทองเนื้อเก้า" pantip.com ห้อง สินธร www.pantip.com/cafe/
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น